การเดินหน้าสู่การเติบโต: โอกาสของ SME ในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

เศรษฐกิจดิจิทัล (ที่ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและการค้าข้ามพรมแดน) มาพร้อมโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจ

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ยังคงรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก แม้จะเผชิญความท้าทายในเชิงเศรษฐศาสตร์มหภาคในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ในหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ ผู้บริโภคกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้งเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะทรงตัว แม้ธุรกิจต่าง ๆ จะยังคงต้องรับมือกับต้นทุนในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นตลอดกันต่อไป แต่ก็เริ่มมองเห็นความหวังใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาบ้างเช่นกัน

เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดการเติบโตในเอเชีย และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวนี้จะยังดำเนินต่อไป ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ได้มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ การเติบโตของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ได้รับแรงหนุนจากเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้าขึ้นและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ในทุกวันนี้ ผู้สั่งสินค้าออนไลน์ต่างต้องการให้ประสบการณ์ในการสั่งซื้อเป็นไปอย่างราบรื่น คุ้มค่า และจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงการส่งคืนสินค้าที่ไม่มีเรื่องยุ่งยากกวนใจ ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและพัฒนาตามความต้องการเหล่านี้ได้ก็จะมีโอกาสมากขึ้นในวงการอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเช่นนี้

ที่ FedEx เราตอบรับความต้องการเหล่านี้โดยการขยายเครือข่ายและบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดตัวเที่ยวบินใหม่จากนครโฮจิมินห์ ซึ่งเชื่อมเอเชียกับยุโรปผ่านศูนย์เอเชียแปซิฟิกของ FedEx ในกวางโจว เวียดนามเป็นตลาดที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็น 24% ของการค้าระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียน

ทุกวันนี้ ผู้บริโภคยังจัดการเรื่องความสะดวกและการรับประกันได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วอีกด้วย ตัวอย่างเช่น FedEx Delivery Manager International (FDMi) เปิดให้ผู้รับสามารถกำหนดการจัดส่งพัสดุตามตารางเวลาของตัวเองได้ ช่วยให้สามารถจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการผสานรวม WhatsApp เข้ากับ FDMi ก็ช่วยเสริมความมั่นใจขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามพัสดุของตนผ่านอุปกรณ์มือถือได้ นวัตกรรมต่าง ๆ อย่างรูปหลักฐานการส่งมอบก็ช่วยให้ผู้สั่งสินค้าออนไลน์มั่นใจได้ว่า พัสดุของตนได้รับการจัดส่งถึงหน้าประตูบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

SME ในเอเชียหันมาลงทุนกับข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลกันมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองไปข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วช่วยให้ประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากขึ้น และตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ โดยมีข้อมูลประกอบ

SME ในเอเชียต่างหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การใช้แชทบอท AI ไปจนถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลด้านการซื้อและเส้นทางการจัดส่ง FedEx ตระหนักถึงประโยชน์ของการมีข้อมูลแบบเรียลไทม์และการนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เมื่อมีข้อมูลพร้อมใช้งาน เราก็จะสามารถพัฒนาเครื่องมืออัจฉริยะต่าง ๆ ได้ ซึ่งช่วยให้เฝ้าสังเกตการจัดส่งได้มากขึ้น ลดปัญหา ทำให้เราเข้าไปจัดการปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และมั่นใจได้ว่าปัญหาจะคลี่คลายโดยเร็ว เราใช้ Big Data ร่วมกับ Machine Learning เพื่อยกระดับการติดตามพัสดุ เพื่อช่วยให้เราแสดงเวลาจัดส่งโดยประมาณและข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการจัดส่งให้กับลูกค้าได้ รวมถึงใช้อัลกอริทึมเชิงคาดการณ์เพื่อจัดเตรียมข้อมูลในการดำเนินพิธีการศุลกากร ทำให้มั่นใจได้ว่า พัสดุต่าง ๆ จะได้รับการจัดส่งทันทีเมื่อถึงประเทศปลายทาง จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่า FedEx นำเทคโนโลยีขั้นสูงต่าง ๆ มาปรับใช้เพื่อค้นหาโอกาสใหม่ ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ

ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน การตัดสินใจของลูกค้ามักมีเรื่องความยั่งยืนเข้ามาเกี่ยวข้อง งานวิจัยได้ระบุว่า ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกจำนวน 74% คาดหวังให้แบรนด์ต่าง ๆ เป็นผู้นำในการรับมือกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและคิดหาหนทางรับมือในเรื่องสภาพภูมิอากาศ แม้การนำส่งอย่างรวดเร็วจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความยั่งยืนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่อาจละเลยไปได้สำหรับผู้บริโภคจำนวนมากเช่นกัน เมื่อผสานหลักการความยั่งยืนไว้ในหลาย ๆ ด้านของธุรกิจ SME จะไม่เพียงแต่เป็นที่สนใจของลูกค้าที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังมีความโดดเด่นในตลาดที่มีคู่แข่งจำนวนมาก ส่งเสริมความภักดีต่อแบรนด์ และเพิ่มยอดขายในที่สุดอีกด้วย

ทุกวันนี้ ความยั่งยืนไม่ใช่แค่ปัจจัยเสริมสำหรับ SME ที่ต้องการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซอีกต่อไป SME สามารถสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนได้ เพียงแค่คำนึงถึงโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อซัพพลายเชนแบบครบวงจรไปจนถึงผู้บริโภคปลายทาง FedEx^® Sustainability Insights จะช่วยให้ลูกค้าสามารถดูข้อมูลการปล่อยมลพิษในซัพพลายเชนของตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อนำไปใช้ในการรายงานและส่งเสริมการวางแผนในอนาคต ลูกค้าสามารถดูข้อมูลการปล่อยมลพิษของหมายเลขติดตามพัสดุแต่ละหมายเลข รวมถึงข้อมูลการจัดส่งของตนเองที่ผ่านมาในรูปแบบผลรวมได้ เครื่องมือนี้จะช่วยในการตัดสินใจวิธีดำเนินงานให้ได้ตามความคาดหวังของลูกค้า ตลอดจนขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการเดินหน้าในเรื่องความยั่งยืน

ในการส่งเสริมให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมและทำงานร่วมกัน FedEx ขอแนะนำแพลตฟอร์มดิจิทัลรูปแบบใหม่ในชื่อ fdx ซึ่งเป็นโซลูชันอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกขนาด แพลตฟอร์มทางการค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างที่ไม่มีเคยมีมาก่อนนี้จะเชื่อมต่อเส้นทางการซื้อทุกขั้นตอนของลูกค้าเข้าด้วยกัน และช่วยให้ SME สามารถจัดการซัพพลายเชนของตนได้ง่ายขึ้น แพลตฟอร์มรูปแบบใหม่นี้จะช่วยผู้ขายในการเพิ่มดีมานด์ เพิ่มคอนเวอร์ชัน ยกระดับการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ และปรับปรุงการคืนสินค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ fdx ยังนำเสนอข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ที่จะช่วยให้มองเห็นข้อมูลได้ดีขึ้นและความสามารถต่าง ๆ ตลอดเส้นทางของลูกค้าจะเชื่อมต่อถึงกัน รวมถึงช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจเกี่ยวกับโลจิสติกส์ได้อย่างมีกลยุทธ์ยิ่งขึ้นตั้งแต่จุดสร้างดีมานด์ไปจนถึงการจัดส่งและการคืนสินค้า

ในขณะที่แนวโน้มที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้พลิกโฉมการทำธุรกิจไป SME ก็อยู่ในจุดที่พร้อมใช้ศักยภาพจากนวัตกรรมเหล่านี้เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อมีกลยุทธ์พร้อมรับมือกับแนวโน้มเหล่านี้ SME ก็จะสามารถยกระดับซัพพลายเชน ขับเคลื่อนการคิดค้นนวัตกรรม และส่งเสริมความยั่งยืนไปพร้อมกันได้ จึงช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้น

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบน Forbes.com เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567