ดึงพลังการเติบโตของอาเซียนมาพัฒนาเป็นความสำเร็จระยะยาว

ธุรกิจขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังมุ่งเป้าไปที่การขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านดิจิทัลและความยั่งยืน

การสำรวจนี้ดำเนินสอบถามผู้นำธุรกิจจำนวน 250 รายจากบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงจากหลายอุตสาหกรรม

ตามข้อมูลของ S&P Global Market Intelligence คาดว่าภูมิภาคอาเซียนจะยังคงเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกอย่างรวดเร็วที่สุดตลอดช่วงทศวรรษต่อไป และจะทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์ทางการเติบโตที่สำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับ APAC

ในระยะเวลาอันใกล้นี้ การเติบโตของอาเซียนจะได้รับแรงผลักดันมาจากการที่อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องผ่านเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเภทในภูมิภาค โดยคาดว่าการไหลเข้าของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะยังคงมีอัตราที่แข็งแกร่งอยู่ เนื่องจากบริษัทข้ามชาติต่างๆ ยังคงกระจายซัพพลายเชนทางการผลิตของตนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ธุรกิจขนาดเล็กยังต้องเผชิญอยู่คือการทำให้โอกาสแบบข้ามพรมแดนเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ผู้ตอบแบบสอบถามครึ่งหนึ่งจากการศึกษาวิจัยของ Forbes ระบุว่าข้อกำหนดและเอกสารทางศุลกากรที่ซับซ้อนเป็นอุปสรรคหลักในการหาลูกค้าใหม่และพันธมิตรใหม่ รวมไปถึงซัพพลายเออร์รายใหม่ในตลาดโลก

ตามที่ผู้ตอบแบบสอบถามระบุ การดำเนินการตามกฎระเบียบทางศุลกากรที่แตกต่างกันในตลาดต่างๆ ก็ยังคงดำเนินไปอย่างยุ่งยากเนื่องด้วยความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติตามกฎหมายการค้าภายในองค์กรมีจำกัด

เมื่อเผชิญกับอุปสรรคเหล่านี้ SME ก็จะสามารถร่วมมือกับซัพพลายเออร์ด้านโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์ได้ ซึ่งจะรับรองได้ว่าการจัดส่งพัสดุระหว่างประเทศของธุรกิจเหล่านั้นจะถูกส่งมอบอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างชาญฉลาด ตัวอย่างเช่น FedEx ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถส่งเอกสารการค้าของตนทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และนำข้อมูลมาใช้ในการสร้างเป็นอัลกอริทึมทางการคาดการณ์ เพื่อจัดเตรียมข้อมูลการดำเนินพิธีการศุลกากร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดส่งจะถูกนำไปส่งมอบทันทีที่มาถึงประเทศปลายทาง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีบริษัทต่างๆ จำนวนมากกำลังศึกษาการใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยสร้าง (Gen AI) กับฟังก์ชันการทำงานต่างๆ เพื่อเปลี่ยนฟังก์ชันเหล่านั้นให้เป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี Forrester คาดการณ์ว่าธุรกิจในภูมิภาค APAC ราว 30% จะได้รับประโยชน์จากอิทธิพลทางการเปลี่ยนแปลงจาก Gen AI ส่วนกรณีการใช้งานอื่นๆ SME ก็มีการใช้ Gen AI เป็นตัวขับเคลื่อนเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ข้อเสนอแนะได้อย่างรวดเร็วเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า สร้างรายงานโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มผลิตภาพของพนักงาน และสร้างเนื้อหาเพื่อปรับปรุงความพยายามทางการตลาด

ธุรกิจต่างๆ จะต้องเพิ่มศักยภาพทางอีคอมเมิร์ซแบบข้ามพรมแดนเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ แต่ถึงกระนั้น ก็มีผู้ตอบแบบสอบถาม 54% ระบุว่างบประมาณด้านไอทีประจำปีขององค์กรที่สนับสนุนความสามารถดังกล่าวคำนวณได้ไม่ถึง 5% เท่านั้น

ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้ผ่านความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ที่ผสานบริการเข้ากับระบบนิเวศทางอีคอมเมิร์ซในการสั่งซื้อ การออกใบแจ้งหนี้ และการจัดส่ง ตัวอย่างเช่น FedEx ให้บริการภายในตลาดอีคอมเมิร์ซ นอกเหนือจากประโยชน์อื่นๆ แล้ว บริการเหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงตัวเลือกทางการจัดส่งและสร้างฉลากการจัดส่งได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น FedEx ได้ผสานบริการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีอย่าง WhatsApp เข้ากับโซลูชันการจัดส่งอีคอมเมิร์ซเชิงโต้ตอบ FDMi ซึ่งให้ตัวเลือกการจัดส่งแบบปรับแต่งได้และการแจ้งเตือนแก่ผู้สั่งสินค้า

การผสมผสานความยั่งยืนจะมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อต้องการขยายธุรกิจ ซึ่งก็ไม่เว้นธุรกิจขนาดเล็กด้วย ผู้กำหนดนโยบายและหน่วยงานกำกับดูแลต้องการให้บริษัทต่างๆ เพิ่มการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) เข้าไปในการดำเนินงานและในห่วงโซ่มูลค่าของตนเองมากยิ่งขึ้น รวมถึงเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ด้วย แม้ว่า SME อาจได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดดังกล่าวในขณะนี้ แต่ลูกค้ารายใหญ่ของธุรกิจประเภทนี้อาจต้องการให้ธุรกิจปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความยั่งยืนบางประการ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผู้บริโภคทั่วโลกต้องการที่จะมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตอย่างยั่งยืนมากขึ้น สิ่งที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กคือการนำ ESG เข้ามาใช้ในการดำเนินงานของตน แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะไม่ได้บังคับให้ทำเช่นนั้นก็ตาม

เพราะที่จริงแล้ว บริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจประมาณ 66% ต่างกำลังมุ่งเน้นความพยายามในด้าน ESG ไปที่การผลิตหรือการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ตลอดจนส่งเสริมการตระหนักรู้ทางสังคมและแก้ไขปัญหาที่สังคมโดยรวมเผชิญอยู่

ในการสนับสนุนธุรกิจที่มีความพยายามนี้ FedEx จึงนำเสนอแดชบอร์ด Sustainability Insights ที่บริษัทต่างๆ สามารถใช้เพื่อทำความเข้าใจถึงการปล่อยมลพิษของตนได้ดีขึ้นเพื่อใช้สำหรับการรายงานและการวางแผน เครื่องมือข้อมูลบนคลาวด์นี้ใช้ข้อมูลชนิดเกือบเรียลไทม์จากเครือข่ายของ FedEx เพื่อประเมินการปล่อยก๊าซ CO2e จากกิจกรรมการขนส่ง

การใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น AI และการวิเคราะห์ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ทำให้มี SME ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ธุรกิจสีเขียวระดับโลกเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบน Forbes.com เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567