ขั้นตอนสำคัญในการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซ: การจัดส่งถึงปลายทางโดยตรง
การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงอาจเป็นตัวพลิกเกมของธุรกิจออนไลน์ของคุณได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อต้นทุน การดำเนินการ และความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อธุรกิจออนไลน์ของคุณ
ในหน้านี้มีข้อมูลดังต่อไปนี้
ในหน้านี้มีข้อมูล
ดังต่อไปนี้
ในยุคของอีคอมเมิร์ซ บริการจัดส่งที่รวดเร็วซึ่งจัดส่งไปยังสถานที่ตั้งของลูกค้าแต่ละรายถือเป็นบรรทัดฐานทั่วไป โดยผลสำรวจระบุว่า 31% ของผู้สั่งสินค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปลี่ยนแบรนด์เพราะต้องการการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น1
แม้ว่าการจัดส่งที่ประสบความสำเร็จจะสำคัญอย่างยิ่งต่อประสบการณ์การชอปปิงออนไลน์ที่น่าพึงพอใจ แต่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กมักพบว่าการจะได้รับบริการนำส่งปลายทางที่เชื่อถือได้ แม่นยำ และมีต้นทุนต่ำ ซึ่งช่วยให้ตนสามารถกระจายสินค้าจากคลังสินค้าไปยังปลายทางสุดท้ายของลูกค้าได้นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทาย
1. Think with Google, e-Conomy SEA 2021: Roaring 20s — The SEA Digital Decade, 2021
การนำส่งปลายทางคืออะไร
การจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงคือขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการจัดส่งในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นจุดที่พัสดุไปถึงปลายทางสุดท้ายในการจัดส่ง โดยในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะหมายถึงกระบวนการที่พัสดุได้รับการจัดส่งจากคลังสินค้าไปยังที่อยู่ของลูกค้า
เหตุใดเจ้าของธุรกิจออนไลน์จึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรง
บริการจัดส่งที่ล่าช้าและล้มเหลวอาจส่งผลให้มีการยกเลิกคำสั่งซื้อและส่งคืนสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งประสบการณ์การชอปปิงที่ไม่ดีอาจส่งผลเสียต่อความภักดีต่อแบรนด์ของลูกค้าและลดโอกาสที่จะเกิดพฤติกรรมการซื้อซ้ำ ส่วนการใช้บริการจัดส่งที่มีต้นทุนสูงและไม่ได้ให้ประสิทธิภาพสูงสุดจะนำไปสู่ต้นทุนในการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นและให้อัตรากำไรที่ลดลงในท้ายที่สุด
อุปสรรคของการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรง
อุปสรรคของการนำส่งปลายทางมีตั้งแต่ความจำเป็นในการวางแผนเส้นทางที่ซับซ้อนสำหรับพัสดุขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งแต่ละรายการมีจุดหมายปลายทางไม่ซ้ำกัน ไปจนถึงความไม่แน่นอนของการจราจรในเส้นทางจัดส่งและที่อยู่ของปลายทางสุดท้ายในการจัดส่งที่ไม่ถูกต้อง
นี่คือความท้าทายหลักๆ บางประการในการจัดส่งพัสดุไปยังปลายทางสุดท้าย
ลูกค้าคาดหวังเวลาส่งที่รวดเร็ว
เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ๆ ในปัจจุบันให้คำมั่นว่าจะจัดส่งสินค้าในวันเดียวกันและในวันถัดไป ลูกค้าจึงคาดหวังให้มีการจัดส่งสินค้าของตนอย่างสะดวกและรวดเร็ว ในขณะที่มีการชูจุดขายเรื่องการจัดส่งที่รวดเร็วอย่างแพร่หลาย เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของตลาดในการจัดส่งที่รวดเร็วกับค่าส่งที่ประหยัด
เพื่อให้เจ้าของธุรกิจออนไลน์มีความยืดหยุ่นในการให้บริการจัดส่ง FedEx จึงมีตัวเลือกการจัดส่งที่หลากหลายซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย เช่น การจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น การจัดส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า และโซลูชั่นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการในการจัดส่งที่เฉพาะเจาะจง นอกจากนี้ ลูกค้ายังสบายใจได้ด้วยการติดตามแบบเรียลไทม์ของ FedEx ที่ลูกค้าสามารถดูการจัดส่งพัสดุของตนอย่างเต็มรูปแบบได้ทุกเมื่อ
การจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงที่มีต้นทุนสูง
ลูกค้าออนไลน์ส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะได้รับบริการจัดส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าถึงจำนวนหนึ่ง แต่ปัญหาคือการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากพนักงานขับรถส่งพัสดุมักจะมีพัสดุขนาดเล็กจำนวนมากที่ต้องจัดส่งไปยังปลายทางที่ไม่ซ้ำกัน เส้นทางที่ซับซ้อน จุดแวะส่งของ และระยะเวลาจอดอยู่กับที่ที่มากขึ้นทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงและชั่วโมงการทำงานของพนักงานส่งพัสดุเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมกับอัตราเงินเฟ้อ
FedEx จึงมีโซลูชั่นเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ประหยัดต้นทุนและปรับปรุงกระบวนการจัดส่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น International Priority® DirectDistribution ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้จำนวนมากโดยผ่านพิธีการศุลกากรเป็นหน่วยเดียว และสามารถกระจายสินค้าดังกล่าวไปยังปลายทางหลายแห่งในประเทศเดียวได้
เมื่อเป็นลูกค้าของ FedEx ที่มีบัญชีบัตรเครดิตจะช่วยให้ประหยัดเงินได้มากขึ้นด้วยส่วนลดจากคำสั่งซื้อที่จัดส่งซ้ำ
ดูเคล็ดลับการจัดส่งที่ประหยัดต้นทุนเพิ่มเติมได้ที่ “5 วิธีในการจัดส่งและประหยัดเงิน”
ความต้องการใช้บริการจัดส่งพิเศษที่เพิ่มขึ้น
โลจิสติกส์ปลายทางอาจมีความซับซ้อนเนื่องจากสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่กรณีที่ปลายทางไม่มีผู้รับสินค้าจากพนักงานส่งพัสดุ ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนกำหนดเวลาส่งใหม่ และกรณีที่ลูกค้าไม่ชอบสินค้าและทำการส่งคืน
สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ สิ่งสำคัญคือต้องให้ความยืดหยุ่นและให้ลูกค้าสามารถควบคุมการจัดส่งของตนได้ การจัดการการจัดส่งของ FedEx หรือ FedEx Delivery Manager® ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวันที่และสถานที่จัดส่งเองได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และลูกค้ายังสามารถรับการแจ้งเตือนอย่างทันท่วงทีพร้อมลิงก์ไปยังพอร์ทัลที่ปลอดภัย ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกการจัดส่งได้จากหลากหลายตัวเลือก นอกจากนี้ FedEx ยังมีตัวเลือกลายเซ็นการจัดส่งที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการเลือกวิธีที่ตนต้องการเซ็นรับพัสดุ
โซลูชั่นเทคโนโลยีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรง
FedEx ใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเส้นทางจัดส่งและช่วยให้มั่นใจได้ว่าพัสดุจะถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด และ FedEx ยังมีตัวเลือกในการเชื่อมต่อระบบ FedEx กับตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้ขั้นตอนการดำเนินการตามคำสั่งซื้อเป็นไปโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ การมีระบบ FedEx บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยังช่วยให้ได้รับส่วนลดพิเศษอีกด้วย
แนวโน้มในอนาคตด้านการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรง
การจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงที่ซับซ้อนขึ้นสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซอันเกิดจากคำขอที่มีความหลากหลายของลูกค้าหมายความว่าบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ FedEx จึงร่วมมือกับคู่ค้าทางธุรกิจในการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ นำเสนอบริการที่เพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้า ซึ่งรวมถึงการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้นโดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามด้านความยั่งยืน FedEx อุทิศตนให้กับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทคอยตรวจสอบการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรงอย่างแข็งขันเพื่อให้แน่ใจว่าเส้นทางจัดส่งมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ FedEx กำลังพัฒนาโหมดการจัดส่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดส่งด้วยโดรนที่กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเป็นไปได้ในสหรัฐอเมริกา และการเปิดตัวหุ่นยนต์จัดส่งอัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการจัดส่งตามความต้องการจากผู้ค้าปลีกไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง
FedEx มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งถึงปลายทางโดยตรง และจะยังคงให้บริการจัดส่งที่เชื่อถือได้ รวมถึงให้การสนับสนุนแก่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กต่อไป เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ที่ศูนย์ธุรกิจขนาดเล็ก