ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางก็ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้ว

ในซาอุดีอาระเบีย เราพบว่าธุรกิจเอกชนเต็มตัวซึ่งเป็นของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กนั้นมีจำนวนมากถึง 99% ส่วนในแอฟริกาใต้ก็มีธุรกิจเช่นนี้มากถึง 91%¹

ในปี 2564 ธุรกิจขนาดเล็กมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น 35% ปีต่อปี (YOY) โดยตลาดที่มีจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่²

เหตุผลที่จำนวนธุรกิจเพิ่มมากขึ้นก็เพราะว่า การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตอลที่รวดเร็วขึ้นช่วยปูทางให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ลงสนาม ผู้ประกอบการหน้าใหม่จำนวนมากก้าวเข้ามาคว้าโอกาสในการเปิดตัวธุรกิจของตนท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้

อย่างไรก็ตาม การก้าวไปสู่ระดับโลกนั้นไม่เหมือนกับการดำเนินธุรกิจภายในประเทศ ซึ่งก่อนจะดำเนินการดังกล่าวก็มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาอยู่หลายประการด้วยกัน คำแนะนำสั้นๆ นี้จะช่วยให้คุณเลือกตัดสินใจได้

ธุรกิจทุกๆ รายไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ล้วนจำเป็นต้องทราบความรู้สึกนึกคิดของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า จึงจะทำการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรดูการวิเคราะห์ข้อมูลดิจิตอลก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อทำความเข้าใจว่าลูกค้าของคุณต้องการอะไร

หลักการง่ายๆ คือ หากธุรกิจของคุณมีจำนวนอิมเพรสชัน การมีส่วนร่วม หรือคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมากพอสมควร ก็อาจได้เวลาแล้วที่จะสำรวจศักยภาพของตลาดดังกล่าว

เมื่อพอจะทราบเรื่องความชื่นชอบในเบื้องต้นแล้ว ก็ได้เวลาสำรวจความสนใจและความรู้สึกนึกคิดของกลุ่มเป้าหมายใหม่ ค้นหาสาเหตุที่ลูกค้าในตลาดใหม่จะซื้อสินค้าจากคุณโดยใช้แบบสำรวจและแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็น การทำเช่นนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้ทราบสาเหตุที่พวกเขาชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของคุณมากกว่าเท่านั้น แต่คุณจะได้เรียนรู้วิธีปรับวิธีการสื่อสารให้เข้ากับท้องถิ่นเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดแห่งใหม่อีกด้วย

นอกจากข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มเป้าหมายแล้ว คุณก็ควรค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองควบคู่ไปด้วยเพื่อให้เข้าใจว่าคุณควรให้บริการกลุ่มเป้าหมายต่างภาษาและต่างวัฒนธรรมอย่างไร เมื่อเข้าใจรายละเอียดทางวัฒนธรรมเล็กๆ น้อยๆ คุณก็จะสามารถปรับวิธีการสื่อสารให้หนักแน่นและตรงใจผู้ฟังมากขึ้นได้

แม้จะเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายมีความชื่นชอบอยู่มากพอสมควร การคาดการณ์ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพาธุรกิจของคุณไปสู่ตลาดใหม่หรือไม่ก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ เหตุผลสำคัญในการขยายธุรกิจของคุณคือความอิ่มตัวของตลาดปัจจุบัน หากธุรกิจของคุณไม่มีพื้นที่ให้ปรับเปลี่ยนหรือขยับขยายในประเทศแล้ว ก้าวต่อไปก็ควรจะเป็นการสำรวจตลาดในต่างประเทศ

นอกจากนี้คุณยังสามารถประเมินได้ด้วยว่าสินค้าหรือบริการของคุณตอบโจทย์ความต้องการอันเร่งด่วนของลูกค้าในตลาดแห่งใหม่หรือไม่ การรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาที่สินค้าหรือบริการของคุณจะเข้ามาแก้ไขอาจช่วยในเรื่องการดำเนินธุรกิจในประเทศแห่งใหม่ ตัวอย่างเช่น ขณะนี้ร้านขายของชำให้บริการแบบไร้สัมผัสกันแล้ว และธุรกิจที่สามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงอันยั่งยืนดังกล่าวนี้ได้ก็เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากธุรกิจของคุณมีโอกาสในลักษณะคล้ายกันนี้ในตลาดแห่งใหม่ ก็ควรคว้าโอกาสเอาไว้เลย

นอกจากความต้องการของลูกค้าแล้ว การทำความเข้าใจนโยบายที่ควบคุมตลาดแห่งใหม่ก็จำเป็นอย่างยิ่งหากคุณต้องการเติบโตในตลาดดังกล่าว ประเมินความยากง่ายในการขอใบอนุญาตและการดำเนินพิธีการศุลกากร โครงสร้างภาษีในท้องถิ่น และปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญต่อการทำธุรกิจ

เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาคิดว่าคุณจะเข้าหาลูกค้ารายใหม่เหล่านี้อย่างไร เน้นใช้ช่องทางดิจิตอลเป็นหลักเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นทุนเริ่มต้นที่มีจำกัดและลดความเสี่ยง โดยเข้าหาลูกค้าผ่านช่องทางดิจิตอล เช่น โซเชียลมีเดีย

77% ของธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกพบว่าจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากผ่านช่องทางออนไลน์³ ธุรกิจขนาดเล็กในเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ Meta เกือบครึ่งหนึ่งรายงานว่ายอดขาย 25% ของตนมาจากช่องทางดิจิตอล⁴

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ค้นหาลูกค้าที่ทรงประสิทธิภาพ การใช้บริการส่งข้อความออนไลน์ จัดทำฟีดเนื้อหาสาธิตวิธีทำ หรือเนื้อหา "ฮาวทู" แบบอื่นๆ จะช่วยมอบโอกาสให้คุณได้เข้าหาลูกค้าโดยตรงบนโซเชียลมีเดีย

การก้าวสู่ระดับโลกนั้นน่าตื่นเต้นและเป็นไปได้แน่นอน สิ่งสำคัญคือการถอยกลับมาก้าวหนึ่งก่อนเพื่อวิเคราะห์ว่าคุณจะทำไปเพื่ออะไร ทำเมื่อไร และทำได้อย่างไร จากนั้นจึงค้นหาว่าใครสามารถช่วยคุณดำเนินการได้บ้าง